กระเบนปีศาจ ขนาดใหญ่ผิดปกติ จนคิดว่าเป็น “ปีศาจ”


“ปลากระเบนปีศาจ” (Devil Ray) ชื่อวิทยาศาสตร์ Mobula Mobular อาศัยอยู่ในมหาสมุทรเขตร้อนทั่วโลก พบได้มากสุดในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ณ ระดับความลึกประมาณ 600–700 เมตร มักหากินบริเวณผิวน้ำ (0-50 เมตร) มีทั้งหมด 9 สายพันธุ์ มีความยาวของครีบทั้ง 2 ข้างรวมกันประมาณ 5.2 เมตร หนักประมาณ 300 กิโลกรัม มีสายพันธุ์และหน้าตาคล้ายกับกระเบนราหู (อธิบายความแตกต่างในย่อหน้า ‘เพิ่มเติม’ ครับ) และด้วยขนาดมหึมานี้ทำให้ในอดีตมันเคยถูกจับตายเพราะเข้าใจว่าเป็น “ปีศาจทะเล” (รูปหน้าปก คือ ภาพกระเบนราหูหนัก 1 ตัน ถูกล่าที่เมืองไถโจว ประเทศจีน เพราะมีขนาดใหญ่เกินไปจนกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้คน)

และถึงจะชื่อว่า “ปีศาจ” แต่ปลากระเบนชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์แต่อย่างใด กลับกันมนุษย์นั้นเป็นอันตรายต่อมันเสียมากกว่า เพราะชาวประมงนิยมล่าเอาเหงือกและเนื้อของมันขายให้กับประเทศจีนและไชน่าทาวน์ (China Town) ทั่วโลก เนื่องจากเหงือกของมันมีราคาสูงถึง 11,000 บาทต่อกิโลกรัม และเหงือกของกระเบนปีศาจ 1 ตัวมีน้ำหนักอย่างต่ำ 10 กิโลกริม นั่นหมายความว่าการจับกระเบนปีศาจได้ 1 ตัว จะสามารถทำเงินได้อย่างต่ำ 110,000 บาทเลยทีเดียว (ยังไม่รวมเนื้อที่ขายได้)

แล้วจีนเอาเหงือกของพวกมันไปทำอะไร ? ตอบ : ตามตำราแพทย์แผนจีน ระบุว่า เหงือกของปลากระเบนปีศาจมีสรรพคุณเป็นยาชูกำลัง ป้องกันโรค กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งใช้รักษาผู้คนมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 แต่อย่างไรก็ตามไม่มีงานวิจัยที่ระบุว่า เหงือกของพวกมันมีสรรพคุณตามที่ตำราแพทย์แผนจีนระบุไว้

ความต่างระหว่างปากของของปลากระเบนปีศาจ (ซ้าย) และ ปลากระเบนราหู (ขวา)

ด้วยเหตุนี้ทำให้ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ปลากระเบนสายพันธุ์นี้ถูกล่าอย่างหนักจน IUCN จัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างมาก คือ พฤติกรรมการหาอาหารของพวกมันที่จะกินแพลงก์ตอน กุ้ง และปลาขนาดเล็กที่อยู่บริเวณผิวน้ำ ทำให้พวกมันมักเผลอไปติดกับอวนชาวประมง ซึ่งด้วยขนาด + น้ำหนักที่มาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะยกมันด้วยมือเปล่าลงสู่ทะเลได้ ชาวประมงจึงมักใช้ตะขอเกี่ยวเหงือกและโยนลงทะเล ซึ่งเหงือกที่บาดเจ็บนั้นก็ยากที่พวกมันจะมีชีวิตรอดต่อไป

อีกทั้ง ปลากระเบนปีศาจยังมีอายุการตั้งครรภ์ที่นาน (12-13 เดือน) และจะผสมพันธุ์ 1 ครั้ง ทุก ๆ 2-3 ปี ซึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับอัตราการถูกล่าและติดอวนชาวประมงแล้ว จึงไม่แปลกที่พวกมันจะใกล้สูญพันธุ์ครับ

เพิ่มเติม : ความความแตกต่างระหว่างปลากระเบนราหู (Manta Rays) กับปลากระเบนปีศาจ (Devil Rays) – คือ กระเบนราหูจะมีขนาดใหญ่กว่ากระเบนปีศาจมาก โดยกระเบนราหูหนักประมาณ 2,000 กิโลกรัม แต่กระเบนปีศาจหนักประมาณ 300 กิโลกรัม นอกจากนี้ปลากระเบนราหูจะอาศัยและหากินตามลำพัง แต่ปลากระเบนปีศาจจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อีกทั้ง ลักษณะภายนอกที่สามารถสั่งเกตได้ชัดเจนที่สุดคือ ปากของกระเบนราหูจะโค้งหุบเข้า แต่ปากปลากระเบนปีศาจจะยื่นตรง

Fact – นักวิจัยออกมาวิเคราะห์ว่า ปลากระเบนราหูที่ยังมีชีวิตมีค่ามากกว่าหากต้องฆ่าเอาเนื้อหรือเหงือก เพราะการมีปลากระเบนราหู 1 ตัวสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจนสามารถทำเงินได้มากถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี แต่หากนำไปขาย (ในจำนวนประมาณ 100 ตัว/ปี) เอาเนื้อหรือเหงือกจะสามารถทำเงินได้ประมาณ 15 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น

Post a Comment

[blogger]

MKRdezign

Contact Form

Name

Email *

Message *

Powered by Blogger.
Javascript DisablePlease Enable Javascript To See All Widget