“ผีเสื้อกินเนื้อ” (Butterfly-Meat) มีอยู่จริง

 

รู้จักกับ “ผีเสื้อจักรพรรดิสีม่วง” (Purple Emperor Butterfly) ชื่อวิทยาศาสตร์ Apatura iris มีถิ่นกำเนิดในยุโรป แต่ปัจจุบันกระจายตัวอยู่ในป่าทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ อีกทั้งมันยังเป็นสายพันธุ์ผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย (ใหญ่พอ ๆ กับนกหรือค้างคาวตัวเล็ก) และถึงแม้จะสวยงาม แต่ผีเสื้อชนิดนี้ไม่สนใจน้ำหวานนะครับ (ไม่ได้อยู่ในทุ่งดอกไม้ด้วย) มันมองหาแต่เนื้อเน่าเท่านั้น

โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะมีผู้คนจำนวนมากนำปลาเน่า ชีสบูด ผ้าอ้อมสกปรกหรือมูลสัตว์ มุ่งหน้าเข้าไปในป่า เพื่อนำไปวางล่อให้ผีเสื้อจักรพรรดิสีม่วงเข้ามากินเนื้อและของเน่าเหล่านั้นและชมความงามของพวกมันท่ามกลางกลิ่นเหม็นเน่า เนื่องจากผีสายพันธุ์นี้จัดว่าเป็นผีเสื้อหายาก จะพบมันก็ต่อเมื่อมีซากสัตว์ที่ตายหรือมูลสัตว์ชนิดอื่นเท่านั้น แถมใช่ว่ามีเหยื่อแล้วมันจะปรากฏตัวเสมอนักท่องเที่ยวต้องอาศัยโชคด้วยถึงจะเจอ

ซึ่งสาเหตุที่มันชื่นชอบของเน่าหรืออะไรที่มีกลิ่นเหม็น ก็เพราะมันต้องการโซเดียม กรดอะมิโน กลูโคส และไนโตรเจนยังไงล่ะ เป็นสารอาหารที่ในน้ำหวานจากเกสรดอกไม้อย่างเดียวไม่เพียงพอ โดยส่วนใหญ่ตัวผู้จะต้องการมากกว่าเมีย เนื่องจากเวลาที่มันผสมพันธุ์ สารอาหารเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังตัวเมียเพื่อไปผสมกับไข่และเป็นอาหารให้ลูกของมันนั่นเอง ทั้งนี้ นอกจากมูลสัตว์หรือของเน่า บางครั้งนักท่องเที่ยวที่เหงื่อออกและมีกลิ่นตัวแรง ๆ ผีเสื้อชนิดนี้ก็อาจจะมาเกาะเพื่อดูดสารอาหารจากเหงื่อเราได้เช่นกัน

ถึงแม้จะหายากแถมอาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัด แต่สถานะของพวกมันไม่ถูกจัดว่าเสี่ยงสูญพันธุ์แต่อย่างใด ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมพวกมันถึงหายากกันล่ะ ? ตอบ : เนื่องจากถิ่นที่อยู่อาศัยของมันคือยอดต้นไม้สูงที่ยากจะมองเห็นจากพื้นดิน ไม่เพียงเท่านี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นแมลงกินเนื้อแน่นอนว่านิสัยของผีเสื้อสายพันธุ์นี้ก็ดุไม่แพ้กัน เพราะมันจะเข้ารุมโจมตีนกหรือค้างคาวที่รุกร้ำเข้ามาอาณาเขตของพวกมันทันที

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแต่ผีเสื้อจักรพรรดิสีม่วงเท่านั้นที่มีพฤติกรรมชอบกินของเน่าแบบนี้ ผีเสื้อทั่วไปก็ต้องการสารอาหารจากของเน่าเช่นกัน แต่ในสายพันธุ์อื่นอาจไม่ได้ต้องการมากเท่าสายพันธุ์นี้ และสำหรับผีเสื้อส่วนใหญ่สารอาหารที่ได้จากดอกไม้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว ดังนั้นเวลาผีเสื้อมาบินรอบตัวหรือมาเกาะตัวเรา (ที่หลายคนอาจจะมองว่าน่ารักและสวยงาม) แต่ความจริงแล้วนั่นหมายความว่าพวกมันกำลังจะกินคุณนั่นเอง

Fact – บนโลกนี้ก็มี “นกกินเลือด” เช่นกัน ชื่อว่า “นกกระจิบแวมไพร์”  (Vampire Finch) สามารถพบได้ ณ เกาะกาลาปากอส ที่เดียวบนโลก เป็นนกขนาดเล็กสีดำที่มีจะงอยปากสุดแหลมคม ซึ่งอาหารหลักของมันก็คือแมลงตัวเล็ก ๆ นี่แหละ แต่หากเมื่อไหร่บนเกาะเริ่มขาดแคลนแหล่งอาหาร นกชนิดนี้จะเปลี่ยนไปกินเลือดของเหยื่อตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือยอมอยู่เฉย ๆ เพื่อให้พวกมันแทะกินปรสิตที่เกาะอยู่ตามตัวทันที เหตุผลของอาหารมื้อพิศดารนี้ไม่ใช่เพราะมันชอบ แต่เพื่อความอยู่รอด นั่นเอง